PHGอากาศเปลี่ยนป่วยพุ่ง ปักหมุดรายได้ทะยาน15%
#PHG #ทันหุ้น - PHG อากาศเปลี่ยนแปลงเข้าหน้าฝน หนุนQ3/2567 ฟอร์มแจ่ม แถมปักหมุดเป้าปีนี้รายได้ทะยาน 13-15% จากปีก่อน อานิสงส์ฐานผู้ใช้บริการโตต่อเนื่อง พร้อมควักงบกว่า 500 ล้านบาท อัพเกรดอุปกรณ์ทางการแพทย์-สร้างอาคารใหม่ สยายปีกรับทรัพย์อนาคตเพิ่ม โบรกคาดกำไรปกติจะกระโดดเพิ่ม 17% เป็น 303 ล้านบาท ในปี 2567เคาะราคาเป้าหมาย 21 บาท
นางสาวจุฑาบงกช แย้มสอาด ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทประเมินว่าภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 3/2567 น่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2/2567 เนื่องจากเป็นช่วงที่สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งโดยปกติแล้วถือเป็นไฮซีซันของธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้มียอดผู้เข้ามาใช้บริการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับปีนี้ทาง PHG ยังคงประมาณการายได้รวมขยายตัว 13-15% เมื่อเทียบกับปี2566 ผลจากธุรกิจหันมาจะเน้นการให้บริการทางการแพทย์ และการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับคนไข้ โดยเฉพาะกลุ่มโรคเฉพาะทางได้อย่างครอบคลุม ประกอบกับยังมีการขยายฐานผู้ป่วยใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติม ส่งผลให้ฐานผู้ใช้บริการขยายตัวกว้างขึ้น
นอกจากนี้ยังมีประเด็นบวกเกี่ยวกับกลุ่มผู้ป่วยใช้สิทธิ์โครงการสวัสดิการภาครัฐ อาทิ โครงการประกันสังคม โครงการของสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่มีการปรับเพิ่มค่าเหมาจ่ายจากเดิม 1,640 บาทต่อคนต่อปี เพิ่มเป็น 1,808 บาทต่อคนต่อปี และโครงการสวัสดิการข้าราชการ ที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นด้วย
*อัดงบลุยอัพฐาน
นางสาวจุฑาบงกช กล่าวเสริมว่า สำหรับแนวทางขยายฐานธุรกิจในอนาคตนั้นบริษัท มีแผนทุ่มงบลงทุนราว 530 ล้านบาท รองรับการสร้างอาการใหม่ จำนวน 280 ล้านบาท การเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์และเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ จำนวน 220 ล้านบาท และอื่นๆ จำนวน 30 ล้านบาท เป็นต้น
ส่วนแหล่งเงินทุนหลักๆ มาจากเงินที่ได้จาก IPO และมีบางส่วนเป็นกระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงาน เพื่อรองรับความต้องการ (ดีมานด์) ผู้ใช้บริการที่เติบโตมากขึ้น
ทั้งนี้ รูปแบบของการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ดังกล่าวนั้นจะมีการเพิ่มศูนย์การรักษาโรคมะเร็ง ศูนย์ MRI Center ศูนย์ทันตกรรม ศูนย์ Stroke วอร์ด OPD และวอร์ด IPD ในส่วนของกลุ่มคนไข้เงินสด และDialysis Unit เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับผู้ป่วยในส่วนของผู้ป่วยนอก (IPD) และผู้ป่วยใน (OPD) ในอนาคตที่ขยายตัว คาดน่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2567 ตลอดจนสนับสนุนการเติบโตในอนาคตต่อไป
*ชูเป้าหมาย 21 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง PHG ว่าประเมินมูลค่าโดยใช้วิธี DCF ซึ่งทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 21 บาท ราคาหุ้น มีปัจจัยบวกอยู่ที่การเติบโตของกำไรปกติในช่วงครึ่งปีแรก 2567 ที่คาดว่าจะออกมาดีถึง 45-55% YoY นับว่าสูงกว่ากลุ่มพร้อม Valuation ที่ต่ำกว่ากลุ่มมากถึง 50% ในหลายมิติทางการเงิน
คาดกำไรปกติจะกระโดด จากปัจจัยผลักดันการเติบโต 1.อยู่ที่ Revenue Intensity ที่สูงขึ้นและสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยที่ชำระค่ารักษาพยาบาลด้วยตนเองที่สูงขึ้นหลัง PHG เริ่มให้บริการรักษาพยาบาลในระดับที่สูงขึ้นซึ่งทำให้รายได้ต่อหัวเพิ่ม 17% สำหรับผู้ป่วยนอกและ 6% สำหรับผู้ป่วยในในปี 2566 เทียบกับก่อนโควิด 2.หลังยกระดับให้เป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการในระดับตติยภูมิ PHG วางแผนจับตลาดผู้ป่วยต่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง CLMV โดยตั้งเป้าปริมาณผู้ป่วยต่างประเทศที่ 7-8% ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษารวมภายในปี 2568 จาก 45% ในปัจจุบันปัจจัยทั้ง 2 น่าจะช่วยเพิ่มกำไรปกติได้ 17% เป็น 303 ล้านบาท ในปี 2567